2553/02/27

สี กับ อารมณ์


สี กับ อารมณ์

จากการทดลองทางจิตวิทยาพบว่าสีสามารถให้ความรู้สึกต่าง ๆ กับบุคคลที่พบเห็นสีนั้น ๆ ได้ เช่น

สีอุ่น (ได้แก่ สีเหลือง สีแสด สีแดง) ให้ความรู้สึกที่เป็นนิเสธ (Positive) คือ เกิดความคึกคัก เร่งเร้า และก่อให้เกิดความตื่นเต้นอยู่เสมอ


สีเย็น (ได้แก่ สีม่วง สีน้ำเงิน สีเขียว) ให้ความรู้สึกที่เป็นปฏิเสธ (Negative) คือ เกิดความสันโดษ เงียบสงบ และก่อให้เกิดความเยือกเย็นอยู่เสมอ



สีแดง เป็นสีที่มีอำนาจการดึงดูดของสายตามากที่สุด เป็นสีที่แสดงความก้าวร้าว ความร้อนแรง ความตื่นเต้น และความกล้าหาญ เป็นสีเก่าแก่ที่มีใช้กันมาช้านาน


สีเหลือง เป็นสีที่มีความสว่างมากที่สุด โดยเฉพาะสีเหลืองสด เป็นสีที่แสดงถึงความสดชื่น และความมีชีวิตชีวา ในอารยธรรมของจีนและคริสเตียน ถือว่าสีเหลืองเป็นสีที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์


สีน้ำเงิน เป็นสีที่มีความเรียบง่าย แสดงถึงความเยือกเย็น สง่าผ่าเผย วังเวง สงบเสงี่ยม ลึกซึ้ง บางครั้งแสดงถึงความเศร้าตามธรรมชาติ และบางครั้งในทางศาสนา สีนี้แสดงถึงความสิ้นหวัง


สีม่วง เป็นสีที่แสดงความเยือกเย็น และความสงบ รวมทั้งความสิ้นหวัง เมื่อมองนาน ๆ ทำให้รู้สึกเมื่อยตา


สีเขียว เป็นสีที่ลักษณะคล้ายสีน้ำเงิน ให้ความรู้สึกค่อนข้างจะเป็นกลาง แต่มีแนวโน้มที่จะให้ความรู้สึกสงบมากกว่าความกระตือรือร้น ให้ความรู้สึกชุ่มชื่น สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ความอยู่เย็นเป็นสุข ความเจริญรุ่งเรือง ความหวัง ความซื่อสัตย์


สีส้มและสีแสด เป็นสีที่เร้าใจ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ค่อนข้างร้อนแรงและบาดตา บางครั้งแสดงถึงความรุ่งโรจน์ และความมั่นคง


สีชมพู เป็นสีที่งดงาม ให้ความรู้สึกร่าเริง บริสุทธิ์ และไร้เดียงสา เป็นสีที่แสดงถึงเกียรติยศ อำนาจ ความเป็นผู้ดี และบางครั้งก็แสดงถึงความเสียใจอันใหญ่หลวง


สีน้ำตาล เป็นสีที่ให้ความรู้สึกมั่นคง แต่แห้งแล้ง และเศร้า


สีเทา เป็นสีที่ให้ความรู้สึกเศร้า สงบ เย็นชา มักใช้เป็นสัญลักษณ์ของความเศร้าโศก ความหนาวสะท้าน ความกลัว ความมืดสลัว ความทรุดโทรม และความแก่ชรา


สีดำ เป็นสีที่ให้ความรู้สึกเงียบเหงา เศร้าโศก เป็นสัญลักษณ์ของความตายและความกลัว


สีขาว เป็นสีที่มีความสว่าง ให้ความรู้สึกนิเสธมากกว่าสีดำและสีเทา เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ความสุภาพ เกียติยศ สันติภาพ และความสื่อตรง ชาวจีนใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความเศร้าโศก ชาวตะวันตกใช้สีขาวเป็นสีของเจ้าสาวในวันมงคลสมรส


หมายเหตุ... คนทั่วไปจะชอบสี แดง น้ำเงิน ม่วง เขียว แสด และเหลือง*** ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบสีแดง ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบสีน้ำเงิน **** ผู้หญิงส่วนใหญ่มีความรู้สึกต่อสีเร็วกว่าผู้ชาย***** และลักษณะการบอดสีมักปรากฏในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

2553/02/19

มหาวิหารเซนต์สตีเฟน, เวียนนา *



มหาวิหารเซนต์สตีเฟน หรือ สเตฟานสโดม (เยอรมัน: Stephansdom, อังกฤษ: St. Stephen's Cathedral) เป็นวัดคริสต์ศาสนาของนิกายโรมันคาทอลิกที่มีฐานะเป็นมหาวิหารที่เป็นวัดแม่ของสังฆมณฑลเวียนนา และ เป็นที่ตั้งของอัครสังฆราชแห่งเวียนนา ตัวมหาวิหารตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนาในประเทศออสเตรีย สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบโรมานเนสก์ และ กอธิค ริเริ่มโดยรูดอล์ฟที่ 4 ดยุคแห่งออสเตรีย วัดปัจจุบันตั้งอยู่บนซากวัดเดิมที่สร้างก่อนหน้านั้นสองวัด วัดแรกเป็นวัดประจำท้องถิ่นที่ได้รับการสถาปนาในปี ค.ศ. 1147 มหาวิหารเซนต์สตีเฟนเป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเวียนนาที่เห็นได้อย่างเด่นชัดจากหลังคากระเบื้องหลากสี


หอสูง 136 เมตรที่ชาวเวียนนาเรียกว่า “Steffl” (ออกเสียง “สเตฟเฟิล” แผลงมาจากคำว่า “Stephen”) หอใต้ขนาดมหึมาของมหาวิหารเซนต์สตีเฟนที่เป็นหอที่เด่นสง่ากว่าสิ่งอื่นใดของภูมิทัศน์ตึกรามของเมืองเวียนนาใช้เวลาสร้างทั้งสิ้น 65 ปี ระหว่าง ค.ศ. 1368 ถึง ค.ศ. 1433 ระหว่างการล้อมกรุงเวียนนาในปี ค.ศ. 1529 และอีกครั้งหนึ่งในยุทธการเวียนนาในปี ค.ศ. 1683 หอสเตฟเฟิลใช้เป็นหอสังเกตการณ์และที่ตั้งของกองบังคับการในการป้องกับเมืองเวียนนาที่มีกำแพงล้อมรอบ ในหอถึงกับมีห้องพักสำหรับผู้ทำหน้าที่สังเกตการณ์ หอสเตฟเฟิลมีผู้ประจำการตอนกลางคืนมาจนกระทั่งปี ค.ศ. 1955 ที่จะสั่นระฆังถ้าเห็นไฟไหม้ในเมือง บน ยอดเป็นที่ตั้งของราชอินทรีสองหัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ตราอาร์มของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก-ลอร์แรน บนหน้าอกเป็นกางเขนสาวกที่หมายถึง “Apostolic Majesty” ของพระมหากษัตริย์แห่งฮังการี
หอเหนือเดิมตั้งใจที่จะให้เป็นแบบเดียวกับหอใต้ แต่กลายเป็นโครงการที่ใหญ่เกินตัวเมื่อคำนึงถึงว่าโครงการที่เริ่มขึ้นในช่วงเวลาตอนปลายของสมัยการสร้างมหาวิหารแบบกอธิคที่กำลังใกล้จะสิ้นสุดลง และเมื่อการก่อสร้างต้องมาหยุดชะงักลงในปี ค.ศ. 1511
ในปี ค.ศ. 1578 ฐานหอที่สร้างขึ้นมาบางส่วนแล้วก็ได้รับการสร้างยอดให้เป็นแบบเรอเนสซองซ์ที่มีชื่อเรียกกันเล่นๆ ว่า “ยอดหอน้ำ” (water tower top) โดยชาวเวียนนา หอนี้สูง 68 เมตร ราวครึ่งหนึ่งของหอใต้
ทางเข้าหลักเรียกว่า “ประตูยักษ์” (Riesentor) ที่หมายถึงกระดูกต้นขาของ Mastodon ที่แขวนอยู่เหนือประตูอยู่เป็นเวลาหลายสิบปี ที่เป็นกระดูกที่ขุดพบในปี ค.ศ. 1443 ขณะที่ขุดบริเวณที่จะทำฐานสำหรับหอเหนือ หน้าบันเหนือประตูเป็นภาพพระเยซูในท่า “พระเยซูผู้ทรงเดชานุภาพ” (Christ Pantocrator) ขนาบด้วยเทวดามีปีกสององค์ ขณะที่ทางซ้ายและขวาของประตูเป็นหอโรมันสองหอหรือ “หอไฮเดน” (Heidentürme) แต่ละหอสูง 65 เมตร ชื่อของหอสร้างมาจากการใช้วัสดุที่มาจากสิ่งก่อสร้างเดิมของโรมัน (=heiden) ระหว่างที่ยึดครองบริเวณนี้อยู่ ฐานสี่เหลี่ยมและแปดเหลี่ยมเหนือแนวหลังคา “หอไฮเดน” เดิมเป็นที่เก็บระฆัง ระฆังในหอโรมันใต้หายไประหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง แต่หอโรมันเหนือยังคงใช้การได้อยู่ หอโรมันและประตูยักษ์เป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของมหาวิหาร


หลังคา
ความงดงามของมหาวิหารเซนต์สตีเฟนอยู่ที่การตกแต่งลวดลายอันวิจิตรของหลังคาด้วยกระเบื้องสีต่างๆ ขนาดของหลังคายาว 111 เมตร และใช้กระเบื้องเคลือบทั้งสิ้น 230,000 แผ่น เหนือบริเวณร้องเพลงสวดทางด้านใต้ของสิ่งก่อสร้างเป็นการวางกระเบื้องเป็นรูปอินทรีสองหัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ตราอาร์มของการปกครองของจักรวรรดิออสเตรียโดยราชวงศ์ฮับส์บวร์ก ทางด้านเหนือเป็นตราอาร์มของเมืองเวียนนา และของ สาธารณรัฐออสเตรีย ในปี ค.ศ. 1945 เพลิงไหม้ที่ข้ามมาจากสิ่งก่อสร้างอื่นยังหอเหนือลามไปสร้างความเสียหายให้แก่โครงไม้ของหลังคา ความใหญ่โตของหลังคาทำให้ถ้าจะใช้ไม้ในการสร้างโครงสร้างใหม่ขึ้นแทนที่ก็จะต้องโค่นป่าราวหนึ่ตารางกิโลเมตรจึงจะได้ไม้พอเพียง ฉะนั้นจึงได้ใช้โครงสร้างเหล็กหล่อ 600 เมตริกตันแทนที่ หลังคาเป็นทรงที่แหลมมากจนการทำความสะอาดด้วยน้ำฝนก็พอเพียง และนอกจากนั้นก็แทบจะไม่มีหิมะเกาะได้

2553/02/16

Cupid *


คิวปิด (Cupid) เป็นชื่อที่ชาวโรมันใช้เรียก เทพอีโรส(Eros-แปลว่าความใคร่) ในภาษาไทยเรียกว่า กามเทพ ถือเป็นเทพเจ้าแห่งความรักของกรีก ตามตำนานเล่าความเป็นมาของเทพเจ้าองค์นี้ต่างๆ กันไป บางตำนานว่าเป็นโอรสของเมอร์คิวรี (เฮร์เมส) และเทพีไดอานา (อาร์ทีมิส) อีกทางหนึ่งว่า โอรสของเมอร์คิวรี และวีนัส (อโฟรไดท์) และอีกทางหนึ่งว่า เป็นโอรสของมาร์ส (อะเรส ตามปกรณัมของกรีก) และวีนัส
ตำนานคิวปิด หรือ เทพเจ้าอีรอส เริ่มจาก อะโฟรไดท์(โรมันเรียกว่าวีนัส) เทพแห่งความรักและความสวยงาม ได้ยินคำร่ำลือกันว่าธิดากษัตริย์กรีก ชื่อ ไซคี(Psyche) งามมากจนองค์เทวีเองยังเทียบไม่ได้ อะโฟรไดท์กริ้วจัด สั่งให้อีรอสบุตรของตนเองไปทำให้นางพบรักแล้วทิ้งนางเสีย
อีรอสมีศรธนูแผลงใส่ใครคนนั้นก็จะตกหลุมรักกับคนแรกที่ตนเองพบ อีรอสจะแอบใช้ศรยิงขณะนางหลับ แต่ทำศรหล่นโดนตัวเองเข้า อีรอสเลยตกหลุมรักนางไซคีไปซะเอง แล้วก้อพาไซคีไปไว้ในตำหนักของตัวเอง แต่มีข้อแม้คือไซคีต้องวางใจในความรักของเขาไม่แอบดูหน้าเขา ไซคีก้อทำตามสัญญามาตลอด
จนวันนึงพี่สาวของไซคีมาเยี่ยมเห็นไซคีมีชีวิตที่หรูหราก้ออิจฉาน้อง ยุให้ไซคีแอบดูหน้าสามีของตัวเอง ไซคีก้อหลงเชื่อจุดตะเกียงแอบดูตอนกลางคืน พอดีน้ำมันตะเกียงหยดถูกไหล่อีโรสอีโรสตื่นและบอกว่า เขาไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนที่ไม่วางใจในความรักได้ แล้วก็จากไป
ไซคีออกตามหาอีโรสที่ตำหนักของอโฟรไดท์ อโฟรไดท์เกลียดไซคีอยู่แล้วจึงให้ไซคีไปยังดินแดนยมโลกเพื่อเอาโถเครื่องหอมมาให้ ระหว่างทางไซคีสงสัยเลยเปิดดูแล้วไซคีก็สลบไปทันทีเพราะมันคือความหลับในยมโลก
ฝ่ายอีโรสได้ไปหาเทพจูปิเตอร์ (พ่อของเทพวีนัสและเป็นตาของคิวปิด)อธิษฐานให้เขาได้เจอไซคี จูปิเตอร์บอกทางให้อีโรสไปช่วยไซคีได้และชี้ให้เห็นโทษของความอยากรู้อยากเห็นครั้งที่สองของนาง สุดท้ายเทพจูปิเตอร์ช่วยเกลี้ยกล่อมอโฟรไดท์ให้เห็นใจในความรักของทั้งสองอโฟรไดท์จึงยินยอมรับไซคีเป็นสะใภ้ ไซคีได้รับน้ำอมฤตจากจูเทพปิเตอร์ทำให้นางกลายเป็นเทพไม่มีวันตายเพื่อจะได้ครองรักกับอีโรสตลอดไป

2553/02/14

กำเนิด"วันวาเลนไทน์"และ"เซนต์วาเลนไทน์"




ประมาณ ค.ศ. ๓๐๐ เซนต์วาเลนไทน์เป็นบาทหลวงอยู่ที่โบสถ์ใกล้ ๆ กับกรุงโรม ในรัชสมัยของพระเจ้าคลอดิอุสที่ ๒ ผู้ซึ่งมีประกาศิตห้ามการแต่งงาน เนื่องจากสมัยนั้นกรุงโรมเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองมาก จึงเป็นเป้าหมายการโจมตีจากชนเผ่าต่างๆ เช่น มองโกเลีย เติร์ก สลาฟ และโกลส์
ด้วยความกว้างใหญ่ของอาณาจักรจึงทำให้การป้องกันการโจมตีของข้าศึกเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซ้ำสถานการณ์ภายในกรุงโรมเองก็ยังยุ่งเหยิง เหตุนี้ผู้ชายจึงถูกเกณฑ์ทหารเพื่อปกป้องบ้านเมือง เมื่อกษัตริย์คลอดิอุสได้ขึ้นครองราชย์ เขารู้สึกว่าชายที่มีครอบครัวจะมีห่วงและมีอารมณ์อ่อนไหวเกินกว่าจะเป็นนายทหารที่ดี เพื่อให้ทหารทุกนายมีคุณภาพคลอดิอุสจึงสั่งห้ามการแต่งงาน

บาทหลวงวาเลนไทน์เห็นอกเห็นใจในความเศร้าของคู่รักหนุ่มสาว เขาจึงแอบทำพิธีแต่งงานอย่างลับๆ ให้กับคู่บ่าวสาว เรื่องนี้รู้ถึงหูคลอดิอุส เขาจึงสั่งให้หา "เพื่อนของคู่รัก" และจับตัวมา เมื่อได้พบกับ "เพื่อนของคู่รัก" กษัตริย์คลอดิอุสประทับใจในความสง่าผ่าเผยของบาทหลวงหนุ่ม จึงได้เสนอที่จะส่งตัวเขาไปยังศาสนจักรแห่งกรุงโรมเพื่อไม่ให้เขาต้องถูกประหารชีวิต แต่วาเลนไทน์ปฏิเสธทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าจะต้องตาย
ระหว่างที่รอการประหารอยู่ในคุก เขาได้รู้จักกับผู้คุมชื่อแอสทีเรียส ซึ่งมีลูกสาวตาบอด และขอให้เขาช่วยรักษาเธอ เหมือนปาฏิหาริย์เธอสามารถมองเห็นได้
๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๖๙ วาเลนไทน์ถูกประหารชีวิต
ก่อนหน้านั้นเล็กน้อยเขาได้เขียนจดหมายถึงลูกสาวผู้คุมและลงท้ายว่า "From your Valentine" ..ใครจะ
คิดว่าวลีนี้จะคงอยู่มานับพันปี!
ต่อมามีการยกย่องวาเลนไทน์ให้เป็นนักบุญหรือให้เป็น "เซนต์วานเลนไทน์" และมีเทศกาลวาเลนไทน์ที่หนุ่มชาวโรมันจะได้สารภาพรักกับหญิงสาว รวมทั้งการส่งการ์ดที่เขียนด้วยลายมือในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ โดยลงท้ายจดหมายด้วยชื่อของ " St.Valentine"

2553/02/08

คุกขี้ไก่



คุกขี้ไก่ จังหวัดจันทบุรี เป็นคุกที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นเพื่อกักขังคนไทยที่ต่อต้าน เมื่อครั้งฝรั่งเศสเข้ายึดจันทบุรีในกรณีพิพาทกันด้วยเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง พ.ศ. 2436 ( ร.ศ. 112 ) จะอยู่ก่อนถึงหาดแหลมสิงห์ราว 1 กิโลเมตร คุกขี้ไก่มีลักษณะเป็นหอสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละประมาณ 4.40 เมตร สูงประมาณ 7 เมตรก่อด้วยอิฐถือปูน มีช่องระบายอากาศอยู่สองแถว หลังคาโปร่ง เล่ากันว่า เป็นคุกที่ทรมานมากเพราะชั้นบนใช้เป็นที่เลี้ยงไก่ซึ่งจะถ่ายมูลรดศรีษะนักโทษที่ถูกคุมขังตลอดเวลา

2553/02/06

Sigmund Freud


ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) จิตแพทย์ชาวออสเตรีย เชื้อสายยิว เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2399 ในจักรวรรดิออสเตรียซึ่งปัจจุบันคือ สาธารณรัฐเช็ก และเสียชีวิตวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2482 รวมอายุ 83 ปี ครอบครัวมีอาชีพขายขนสัตว์ มีฐานะปานกลาง

ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) สนใจด้านวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเวียนนาสาขาวิทยาศาสตร์ แล้วเรียนต่อสาขาแพทยศาสตร์ จากนั้นได้ไปศึกษาต่อด้านโรคทางสมองและประสาทที่กรุงปารีสกับหมอผู้เชี่ยวชาญด้านอัมพาต ที่นั่นฟรอยด์ได้ค้นพบว่าความจริงแล้วคนไข้บางรายป่วยเป็นอัมพาตเนื่องจากภาวะทางจิตใจไม่ใช่ร่างกาย หลังจากกลับมาอยู่ที่กรุงเวียนนา ฟรอยด์จึงใช้วิธีการรักษาแบบจิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis) กับคนไข้ที่เป็นอัมพาต กล่าวคือให้ผู้ป่วยเล่าถึงความคับข้องใจหรือความหวาดกลัวและพยายามให้ผู้ป่วยเข้าใจเหตุการณ์นั้นๆ เพื่อลดความขัดแย้งในใจ ปรากฏว่ามีผู้ป่วยหลายรายหายจากอัมพาต

ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) ได้ศึกษาวิเคราะห์จิตใจของมนุษย์ และอธิบายว่า จิตใจทำหน้าที่ควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ มี 3 ลักษณะ คือ

1. จิตรู้สำนึก (Conscious mind) หมายถึง สภาวะจิตที่รู้ตัวอยู่ ได้แก่ การแสดพฤติกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับหลักแห่งความเป็นจริง

2. จิตกึ่งสำนึก (Subconscious mind) หมายถึง สภาวะจิตที่ระลึกถึงได้ แต่มิได้แสดงออกเป็นพฤติกรรมในขณะนั้น เป็นส่วนที่รู้ตัวสามารถดึงออกมใช้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

3. จิตใต้สำนึก (Unconscious mind) หมายถึง สภาวะจิตที่ไม่อยู่ในภาวะที่รู้ตัวระลึกถึงไม่ได้ เป็นสิ่งที่ฝังลึกอยู่ภายในจิตใจ แต่มีอิทธิพลจูงใจพฤติกรรม และการดำเนินชีวิตของคนเรามากที่สุด

เขาอธิบายว่าจิตใต้สำนึกของคนเราแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ อิด (Id) อีโก้ (Ego) และ ซุปเปอร์อีโก้ (Superego) โดย อิดจะเป็นพลังอารมณ์ความรู้สึกที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด เช่น รัก โลภ โกรธ หลง หรือเรียกว่าเป็นสัญชาตญาณดิบของคนเรานั่นเอง ซึ่งหากคนเรามีอิด เพียงอย่างเดียวก็จะไม่ต่างอะไรกับสัตว์ที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจตัวเองได้ ในขณะที่ ซุปเปอร์อีโก้จะเป็นพลังงานที่เกิดจากการเรียนรู้ค่านิยมต่างๆ เช่น ความดี ความชั่ว มโนธรรม เป็นต้น ซึ่งเป็นพลังในส่วนดีของจิตมนุษย์ที่จะคอยหักล้างกับพลังอิด ทั้งนี้ในระหว่างความสุดขั้วของอิด และซุปเปอร์อีโก้นั้นจะมี อีโก้อยู่ระหว่างกลางคอยทำหน้าที่ควบคุมไม่ให้คนเราแสดงสัญชาตญาณดิบออกมามากเกินไป แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้คนเราแสดงออกซึ่งมโนธรรมเพียงอย่างเดียวเช่นกัน

2553/02/01

10 อันดับ สถานที่ที่ชื่อยาวที่สุดในโลก

10. Meallan Liath Coire Mhic Dhughaill ประเทศสก็อตแลนด์
ชื่อที่ยาวที่สุดในสกอตแลนด์ นี่เป็นชื่อของสถานที่แห่งหนึ่งใกล้ออลแทนรินนี ไฮแลนด์ ประกอบด้วยพยัญชนะ 32 ตัว

9. Te Whakatakanga-o-te-ngarehu-o-te-ahi-a-Tamatea ประเทศนิวซีแลนด์
ชื่อภาษาเมารีของน้ำพุร้อนแฮมเมอร์ ในประเทศนิวซีแลนด์เช่นเดียวกับชื่อยาวอันดับ 2 ชื่อนี้อ้างถึงตำนานของทามาทีโดยอธิบายว่าน้ำพุร้อนขึ้นได้เพราะเถ้าถ่านจาก ไฟของทามาทีตกลงในน้ำ ประกอบด้วยพยัญชนะ 38 ตัว

8. Lower North Branch Little Southwest Miramichi ประเทศแคนาดา
สถานที่ในประเทศแคนาดาซึ่งมีชื่อยาวที่สุด คือ แม่น้ำสายสั้น ๆ ในนิวบรุนสวิก ประกอบด้วยพยัญชนะ 40 ตัว
ชื่อเต็มภาษาสเปนของเมืองซานตาเฟ รัฐนิวเม็กซิโก ในอเมริกา แปลว่า "ราชนครแห่งศรัทธาในพระคริสต์ของนักบุญฟรานซิส แห่งเมืองอัสซิซี" ประกอบด้วยพยัญชนะ 40 ตัว


7. Villa Real de la Santa Fe de San Francisco de Asis ประเทศสหรัฐอเมริกา
ชื่อเต็มภาษาสเปนของเมืองซานตาเฟ รัฐนิวเม็กซิโก ในอเมริกา แปลว่า “ราชนครแห่งศรัทธาในพระคริสต์ของนักบุญฟรานซิส แห่งเมืองอัสซิซี" ประกอบด้วยพยัญชนะ 40 ตัว

6. Chargoggagoggmanchauggagoggchaubunagungamaugg ประเทศสหรัฐอเมริกา
นี่คือทะเลสาบใกล้เมืองเวบสเตอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ในอเมริกา ชื่อภาษาอินเดียนแดงนี้แปลว่า "ปลาของเจ้า อยู่ฝั่งของเจ้า ปลาของข้าฝั่งของข้า และปลาที่ไม่ใช่ของเจ้าหรือของข้าอยู่ตรงกลาง" (มันจะบอกทำไมฟะ) ชื่อนี้ต่อเติมขยายจากชื่อจริง "Chagungunga maug Pond" หรือ "สถานที่จับปลากำหนดเขต" โดย แลรีตาลี บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เวบสเตอร์ ไทม์ ในช่วงปี ค.ศ. 1920-1929 ประกอบด้วยพยัญชนะ 45 ตัว

5. El Pueblo de Nuestra Senora la Reina de los Angeles de la Porciuncula ประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่นี่คือที่ตั้งของคณะนักบวชฟรานซิ สกัน และชื่อเต็มภาษาสเปนของเมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริภา ชื่อนี้แปลว่า "เมืองของพระแม่ของเรา ราชินีแห่งมวลเทพของผู้ด้อยโอกาส" ประกอบด้วยพยัญชนะ 57 ตัว

4. LIanfairpwllgwyngyllgogerychwyrndrobwllllantysiliogogogoch ประเทศสหราชอาณาจักร
นี่เป็นสถานที่ในเมืองกวินเนด ประเทศอังกฤษ มีชื่อเสียงเรื่องความยาวของตั๋วรถไฟ ชื่อของสถานที่นี้มีความหมายว่า "โบสถ์นักบุญแมรี ณ หุบเขาเฮเซลขาวใกล้วังน้ำวน ลลันทิสซิลิโอแห่งถ้ำแดง" ชื่อนี้จะเป็นชื่อที่ แท้จริงหรือไม่ยังเป็นที่กังขากันอยู่ เนื่องจากชื่ออย่างเป็นทางการของสถานที่นี้ประกอบด้วยพยัญชนะเพียง 20 ตัวแรกเท่านั้น ชื่อเต็มนี้ดูเหมือนจะถูกตั้งขึ้นเป็นการเล่นตลกมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 โดยคนท้องถิ่น ชื่อ จอห์น อีแวนส์ ประกอบด้วยพยัญชนะ 58 ตัว

3. Gorsafawddacha'idraigodanheddogleddollonpenrhynareurdraethceredigion ประเทศสหราชอาณาจักร
ชื่อนี้คิดขึ้นโดยการรถไฟไอน้ำแฟร์เบอร์น เมืองกวินเนดแคว้นเวลส์เหนือ ประเทศอังกฤษ โดยมีจุดประสงค์เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และเพื่อเอาชนะคู่แข่งในอันดับ 4 ชื่อนี้มีความหมายว่า "สถานีมอดแดชและฟันมังกรของมัน ณ ถนนเพนรินเหนือ บนหาดทรายทองแห่งอ่าวคาร์ดิแกน" ประกอบด้วยพยัญชนะ 67 ตัว

2.Taumatawhakatangihangakoauauotamateaturipukakapikimaungahoronukupokaiwhenuakitanatahu ประเทศนิวซีแลนด์
นี่เป็นชื่อภาษาเมารีของเนินเขาในประเทศนิวชีแลนด์ ชื่อนี้มีความหมายว่า "สถานที่ซึ่งทามาที (Tamatea), ผู้ชายหัวเข่าใหญ่ซึ่งเลื่อนไถล ปีนและกลืนภูเขา ที่รู้จักกันในนามผู้กินแผ่นดิน, ได้เล่นขลุ่ยให้คนรักฟัง" เนินเขานี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งซึ่งยาวพอ ๆ กัน ประกอบด้วยพยัญชนะ 83 ตัว


1. KRUNGTHEPMAHANAKHON AMONRATTANAKOSIN MAHINTHRAYUTTHAYA MAHADILOKPHOPNOPPHARATRATCHATHANIBURIROM UDOMRATCHANIWETMAHASATHAN AMONPHIMAN-AWA-TANSATHIT SAKKATHATIYAWITSANUKAMPRASIT
ประเทศไทย



อีก 1 ความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ประกอบไปด้วยพยัญชนะทั้งหมดถึง 167 ตัวอักษร ชื่อเต็มของ กรุงเทพมหานครนั้น คือ "กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์
" ซึ่งมีความหมายว่า "เมืองของเทวดา มหานครอันเป็นอมตะ สง่างามด้วยแก้ว 9 ประการ และเป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดิน เมืองที่มีพระราชวังหลายแห่ง ดุจเป็นวิมานของเทวดา ซึ่งมีพระวิษณุกรรมสร้างขึ้นตามบัญชาของพระอินทร์ (ท้าวสักกะเทวราช)"