2553/09/29

ครบรอบ 50 ปี มนุษย์หินฟลินสโตน


พรุ้งนี้แร้วนะค่ะ เป็นวันครบรอบ 50 ปี มนุษย์หินฟลินสโตน !!!!!!!!


ประวัติฟลินสโตน The Flintstone

The Flintstones is an animated American television sitcom that ran from September 30, 1960 to April 1, 1966 on ABC. Produced by Hanna-Barbera Productions, The Flintstones is about a working class Stone Age man's life with his family and his next door neighbor and best friend. It has since been re-released on both DVD and VHS.

Critics and fans alike agree that the show was an animated imitation of The Honeymooners with rock puns thrown in. William Hanna admitted that "At that time "The Honeymooners" was the most popular show on the air, and for my bill, it was the funniest show on the air. The characters, I thought, were terrific. Now, that influenced greatly what we did with "The Flintstones"...."The Honeymooners" was there, and we used that as a kind of basis for the concept." However Joseph Barbera disavowed these claims in a separate interview, stating that "I don't remember mentioning "The Honeymooners" when I sold the show, but if people want to compare "The Flintstones" to "The Honeymooners," then great. It's a total compliment. "The Honeymooners" was one of the greatest shows ever written."[1] Its popularity rested heavily on its juxtaposition of modern-day concerns in the Stone Age setting


CharacterRole
Fred FlintstoneThe main character. Fred is an accident-prone quarry worker and head of the Flintstone clan. He is quick to anger (usually over inconsequential matters), but a very loving husband and father.
Wilma Pebble Slaghoople FlintstoneFred's wife. She is more intelligent and level-headed than her husband, though she often has a habit of spending money.
Pebbles FlintstoneThe Flintstones' daughter.
DinoThe Flintstones' pet dinosaur, who barks like a dog.
Baby PussThe Flintstones' pet saber toothed cat.
DoozyThe Flintstones' pet Dodo Bird.

2553/09/24

มะเขือเทศ !!! เป็นผักหรือผลไม้*


กินมะเขือเทศแล้วผิวสวย ว่าแต่มันคือ"ผัก"หรือว่า"ผลไม้" กันแน่ !!!


มะเขือเทศเป็นผลไม้โบราณมาก มีมาแต่สมัยก่อนยุคประวัติศาสตร์แล้ว ตอนนั้น เป็นเพียงวัชพืชที่ขึ้นท่ามกลางไร่ถั่วและมันสำปะหลัง แถบเทือกเขาแอนดีสในอเมริกากลาง

ต่อมามีการ พัฒนาพันธุ์ตามธรรมชาติและโดยฝีมือมนุษย์และเพาะปลูกกินเป็นอาหารกันแพร่ หลายทั่วไป ปี ค.ศ. 1519 เมื่อกองทัพสเปนนำโดย เฮาร์นาน คอร์เตส์ (Hernan Cortes) บุกยึด อาณาจักรเม็กซิโกของชาวพื้นเมืองเอซเท็ค (Aztecs) เป็น อาณานิคมของตนและประกาศ เป็นประเทศสเปนใหม่ (New Spain) ขึ้น ทหารสเปนผู้รุกรานก็ได้พบชาวเอซเท็คปลูกมะเขือเทศพันธุ์ต่าง ๆ ไว้กินกัน แพร่หลายอยู่แล้ว มะเขือเทศเขียวนำมาเป็นผักปรุงกินกับอาหาร

ส่วนผลสุก ก็รู้จักนำมาผสมกับพริกทำซอสรสโอชาไว้กินกับถั่วจากนี้มะเขือเทศจึงถูกนำ ข้ามน้ำข้ามทะเลสู่ยุโรปในสมัยต้นศตวรรษที่ 16เริ่มที่ สเปนก่อนแล้วจึงขยายไปประเทศอื่น

ในทางพฤกศาสตร์ ผลไม้ คือ รังไข่ที่เจริญเต็มที่ของพืชดอก ส่วน ผัก คือ ส่วนที่กินได้ของพืชล้มลุก ไม่ว่าจะเป็นราก (แครอท) ก้าน (หน่อไม้ฝรี่ง) ใบ (ผักกาด) หัว (กระเทียม) หน่อ ดอก (บลอคโคลี)

โดยปกติเราจะวัดความแตกต่างระหว่างผักกับผลไม้ที่ความหวาน ซึ่งผลไม้มักจะมีรสหวานกว่าผัก เนื่องจากมีน้ำตาลฟรุกโตสสูง และการที่มีรสหวานก็ช่วยดึงดูดให้สัตว์มากิน อันเป็นหนทางที่ดีในการขยายพันธุ์ เพราะอย่างนี้ทั้ง มะเขือเทศ แตงกวา ฟักทอง พริก มะเขือ และฝักถั่ว จึงเป็นผลไม้ที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นผัก

และสถานะความเป็นผักหรือ ผลไม้ของมะเขือเทศก็เคยถูกส่งขึ้นพิจารณาถึงในศาลสูงของอเมริกามาแล้ว เมื่อนักธุรกิจกลุ่มหนึ่งฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ท่าเรือ ที่เก็บภาษีนำเข้ามะเขือเทศของพวกเขา ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีศุลกากรปี 1883 ซึ่งกำหนดให้ผู้นำเข้าผักต้องจ่ายภาษี และยกเว้นภาษีนำเข้าให้ผลไม้ โดยศาลสูงของอเมริกา ตัดสินเรื่องนี้โดยระบุว่า ผัก ตามนิยามของกฎหมายว่าด้วยภาษีศุลกากร เป็นคำนิยามตามแบบที่คนทั่วไปเข้าใจกัน ไม่ใช่คำนิยามทางพฤกษศาสตร์ กรณีมะเขือเทศจึงถือว่าเป็น ผัก และการนำเข้ามะเขือเทศย่อมต้องจ่ายภาษีท้ายสุด

มะเขือเทศเป็นผลไม้ที่ผู้คนทั่วโลกนิยมกันมากที่สุด โดยแต่ละปีผลผลิตออกมามากกว่า 60 ล้านตัน มากกว่ากล้วย ถึง 16 ล้านตัน

สารเคมีและสารอาหารที่สำคัญ : ในผลมะเขือเทศมีสารจำพวก แคโรทีนอยด์ ชื่อไลโคพีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารสีแดง และวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามิน บี 1 บี 2 วิตามิน เค โดยเฉพาะวิตามิน เอ และวิตามิน ซี มีในปริมาณสูง มีกลดมาลิค กรดซิตริก ซึ่งให้รสเปรี้ยว และมีกลูตามิค (Glutamic) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหาร นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารเบต้าแคโรทีน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น

สรรพคุณ ขนาดและวิธีใช้ :

ผลมีรสเปรี้ยว ช่วยดับกระหาย ทำให้เจริญอาหาร บำรุงและกระต้นกระเพาะอาหาร ลำไส้ ไต ให้ทำงานได้ดีด้วยช่วยขับพิษและสิ่งคั่งค้างในร่างกายเป็นยาระบายอ่อน ๆ และเหมาะที่จะเป็นอาหารสำหรับคนเป็นโรคนิ่ว วัณโรค ไทฟอยด์ หูอักเสบ และเหยื่อตาอักเสบ ให้รับประทานผลสด

ลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ

ผิวหนังที่โดนแดดเผา โดยใช้ใบตำให้ละเอียดทาบริเวณที่เป็น

แก้อาการปวดฟัน โดยนำราก ลำต้น และใบแก่ต้มกับน้ำรับประทาน

รักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง โดยใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรืออาจจะมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่ม

ช่วยลดการแข็งตัวของผนังหลอดเลือด รักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน ช่วยบำรุงสายตา และช่วยย่อยอาหาร ลดความดันโลหิต และช่วยบรรเทาอาการป่วยของผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคตับอักเสบ โดยรับประทานมะเขือเทศสุกเป็นประจำ

ลดอาการท้องอืดเฟ้อ และอาหารไม่ย่อย ช่วยดับกระหายคลายร้อน และช่วยรักษาโรคแผลร้อนใน โดยคั้นน้ำมะเขือเทศสุกหรือปั่น ดื่มรับประทาน

ข้อควรสังเกต/ข้อควรระวัง :

1. น้ำจากผลมะเขือเทศสุกมีสารไลโคเปอร์ซิซิน (Lycopersicin) ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย
2. ใบมีฤทธิ์ฆ่าแมลง โดยชงกับน้ำร้อนใช้กำจัดหนอนและแมลง ที่มากินผักได้



วันนี้คุณทานผักแล้วหรือยัง ???


2553/09/18

เอสเปรสโซ 1 แก้วอันตราย!ถึงหัวใจทรุดโทรม

วารสารวิชาการยุโรป เตือน เอสเปรสโซ 1 แก้วอันตราย! ถึงหัวใจทรุดโทรม

แม้จะมีรายงานทางการแพทย์ออกมาอยู่สม่ำ เสมอว่า การดื่มกาแฟวันละ1-2 แก้วจะทำให้ร่างการสดซื่น เพราะสารคาเฟอีนในกาแฟจะเป็นตัวกระตุ้นเลือดลมให้ไหลหมุนเวียนดี

แต่ ล่าสุดมีรายงานจากวารสารวิชาการ "โภชนาการบำบัด" ของยุโรป เปิดเผยว่า " กาแฟเอสเปรสโซ"มีผลแสลงกับหัวใจอย่างหนัก แม้จะดื่มแค่เพียงถ้วยเดียว อาจทำให้หัวใจชำรุดทรุดโทรมได้

วารสารดังกล่าวรายงานผลการศึกษาว่า ฤทธิ์ของกาแฟเอสเปรสโซ ซึ่งมีคาเฟอีนเข้มข้นมาก จะมีผลต่อการทำงานของหัวใจเป็นอย่างมาก และทำให้เลือดที่ไหลไปยังหัวใจ ลดต่ำลงได้ถึงร้อยละ 22 หลังจากดื่มกาแฟดังกล่าวแค่ไปชั่วโมงเดียวเท่านั้น

นอก จากนั้นทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษา กล่าวว่า ผลการศึกษายืนยันว่า ความเข้มข้นของคาเฟอีนในกาแฟชนิดนี้ถ้วยเดียว นับว่ามีผลแสลงต่อหลอดเลือดและหัวใจ

คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยปาเลอ โม แห่งอิตาลี ยังกล่าวว่าผลการศึกษาดังกล่าวได้มาจากการทำการศึกษากับอาสาสมัคร ผู้เป็นชายฉกรรจ์ 20 คน โดยให้ดื่มกาแฟเอสเปรสโซหนึ่งถ้วย และเทียบดูผลกับกลุ่มคนที่ดื่มเครื่องดื่มไร้คาเฟอีน

2553/09/16

ตำแหน่งสิว บอกเรื่องสุขภาพได้*


หน้าผากซ้าย-ขวา
สาวๆ ที่เป็นสิวบริเวณหน้าผากซ้าย-ขวา มักพบปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อย กระเพาะปัสสาวะและต่อมหมวกไต หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการทำความสะอาดผิวหน้าไม่ดีพอหรือจากภาวะที่ร่างกายมีความเครียดสะสม

หว่างคิ้ว
สิวที่ขึ้นบริเวณหว่างคิ้ว มักพบปัญหาเกี่ยวกับการย่อยน้ำตาลแล็กโทสซึ่งส่วนใหญ่พบอยู่ในน้ำนม หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการทานอาหารรสจัด หรือระบบการดูดซึมที่ไม่สมบูรณ์ของกระเพาะและลำไส้เล็ก

ภายในหู
สิวภายในหู มักเกี่ยวกับการทำงานของไต หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือนานเกินไป รวมไปถึงการรับประทานเนื้อสัตว์ ดื่มกาแฟ และแอลกอฮอล์มากเกินไป

แก้มส่วนบน
สิวที่เกิดบริเวณแก้มส่วนบนหมายถึงอาจมีอาการไซนัสและปอด หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการสูบบุหรี่จัด ภูมิแพ้ และเป็นหวัดเรื้อรัง

แก้มส่วนล่าง
สาวๆ ที่เป็นสิวบริเวณแก้มส่วนล่าง อาจพบปัญหาเกี่ยวกับเหงือกและฟัน หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่ไม่สะอาด

รอบดวงตา
เมื่อมีสิวเกิดขึ้นบริเวณรอบดวงตาทั้งสอง อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไตหรือโรคภูมิแพ้ หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการสวมแว่นตาที่เสียดสีกับผิวมากเกินไป

จมูกและเหนือริมฝีปาก
สิวที่ขึ้นบริเวณจมูกและเหนือริมฝีปาก มักพบปัญหาจากการทำงานของหัวใจและระบบสืบพันธุ์ หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนภายในร่างกาย หรืออยู่ในระหว่างการใช้ยาคุมกำเนิด

ใต้ริมฝีปาก
สาวๆ ที่เป็นสิวบริเวณใต้ริมฝีปาก อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของรังไข่ หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากภาวะการขาดความสมดุลย์ของฮอร์โมนภายในร่างกาย หรือการทำความสะอาดไม่ดีพอ

ปลายคาง
สิวที่ขึ้นบริเวณปลายคาง มักพบปัญหาที่บริเวณกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการทานอาหารรสจัดจนลำไส้เล็กเป็นแผลหรือมีปัญหาในเรื่องการดูดซึม

สรุปว่าการดูแลรักษาใบหน้าให้สะอาดหมดจด พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานผักผลไม้ อาหารที่มีประโยชน์เป็นสิ่งที่สาวๆ ควรทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้นอกจากสิ่งเหล่านี้ คือ การทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง ลดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องสิวลงไปบ้าง มองโลกในแง่บวกว่าตัวเราเองก็มีจุดเด่นในด้านอื่นๆ อีกมากมาย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเรียกความมั่นใจของสาวๆ กลับคืนมา และทำให้สาวๆ กลายเป็นสาวพราวเสน่ห์ได้อย่างง่ายดาย

2553/09/14

โลมาอิรวดี*


โลมาอิรวดี หรือ โลมาหัวบาตร เป็นโลมาชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Orcaella brevirostris อยู่ในวงศ์โลมา (Delphinidae) รูปร่างหน้าตาคล้ายโลมาทั่วไป แต่มีลักษณะเด่นคือ หัวที่มนกลมคล้ายบาตรพระ ลำตัวสีเทาเข้ม แต่บางตัวอาจมีสีอ่อนกว่า ตามีขนาดเล็ก ปากอยู่ด้านล่าง ครีบข้างลำตัวแผ่กว้างเป็นรูปสามเหลี่ยม ครีบบนมีขนาดเล็กมาก มีรูปทรงแบนและบางคล้ายเคียว มีขนาดประมาณ 180 - 275 ซ.ม. น้ำหนักไม่มีรายงาน

มีการกระจายอย่างกว้างขวางในมหาสมุทรแปซิฟิก, มหาสมุทรอินเดีย, อ่าวไทย มักพบเข้ามาอยู่ในแหล่งน้ำกร่อยและทะเลสาบหรือน้ำจืด เช่น บริเวณปากแม่น้ำ โลมาอิรวดีบางกลุ่มอาจเข้ามาอาศัยอยู่ในแม่น้ำสายใหญ่ ๆ ด้วย เช่น แม่น้ำโขง และทะเลสาบเขมร ในปี พ.ศ. 2459 มีรายงานว่าพบอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

ถูกค้นพบครั้งแรกที่แม่น้ำอิรวดีในประเทศพม่า จึงเป็นที่มาของชื่อ ปัจจุบันในน้ำจืด สามารถพบได้ 5 แห่ง คือ ทะเลสาบชิลิก้า ประเทศอินเดีย, แม่น้ำโขง, ทะเลสาบสงขลา, แม่น้ำมะหะขาม ประเทศอินโดนีเซีย และปากแม่น้ำบางปะกง


โลมาอิรวดีบนเวทีอนุรักษ์โลก........

โลมาอิรวดีได้รับความสนใจอีกครั้ง เมื่อประเทศไทยเสนอเพิ่มความคุ้มครองในอนุสัญญาไซเตสจากบัญชีสอง เป็นบัญชีหนึ่ง เพื่อให้โลมาที่น่ารักและมีจำนวนประชากรน้อยนิดชนิดนี้ได้รับการคุ้มครองมา

โลมาอิรวดี เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาศัยอยู่ในน้ำจืดถึงน้ำเค็ม พบแพร่กระจายอยู่ในประเทศกลุ่ม อินโด-แปซิฟิก ตั้งแต่อินเดียถึงออสเตรเลีย มีรายงานการพบในบังกลาเทศ พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และไทย ในแต่ละบริเวณจะพบโลมาอิรวดีอาศัยอยู่ในแม่น้ำ ชายฝั่ง หรือทะเลสาบน้ำกร่อย ซึ่งแต่ละแห่งมีจำนวนไม่มาก อีกทั้งโลมาอิรวดีที่มีอยู่ยังลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ส่วนในประเทศไทยนั้น โลมาอิรวดีเป็นหนึ่งในบรรดาโลมาราว 7-10 ชนิดที่พบในประเทศไทย โลมาชนิดนี้จะมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากโลมาทั่วๆ ไปคือ เป็นโลมาที่ไม่มีจะงอยปาก หัวกลมมนคล้ายๆ บาตรพระ เลยมีอีกชื่อหนึ่งว่า โลมาหัวบาตร แต่โลมาอิรวดีจะต่างจากโลมาหัวบาตรชนิดอื่นๆ ตรงที่โลมาอิรวดีจะมีครีบหลังรูปสาม เหลี่ยมโค้งมน ขนาดไม่ใหญ่นัก สีของลำตัวจะเป็นสีน้ำเงินเทาตลอดตัว แต่บริเวณท้องจะมีสีจางลง โลมาอิรวดี ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย
โลมาอิรวดีกำลังจะสูญพันธุ์..........
สถานการณ์ความอยู่รอดของโลมาอิรวดีทั่ว โลกกำลังตกอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง รวมทั้งในประเทศไทยเอง นอกจากจำนวนประชากรโลมาอิรวดีที่มีน้อยเนื่องจากลักษณะทางชีววิทยา หรือพฤติกรรมของโลมามีความ เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อยู่สูง เช่น ความต้องการพื้นที่อาศัยที่มีลักษณะเฉพาะ หรือการตกลูกเพียงคราวละ 1 ตัว แล้ว จำนวนของโลมาอิรวดียังลดลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุหลักๆ เห็นจะหนีไม่พ้นมนุษย์อีกเช่นเคย กิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์คุกคามสัตว์ร่วมโลกทุกชนิด รวมทั้งโลมาอิรวดีด้วย

การอนุรักษ์โลมาอิรวดี......

ตามกฎหมายไทย โลมา อิรวดีได้รับการจัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 138 (สัตว์ป่าคุ้มครองเป็นสัตว์ป่าที่เกิดในธรรมชาติและมีรายชื่ออยู่ในประกาศ คณะรัฐมนตรีให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามล่า ห้ามครอบครอง หรือห้ามเพาะพันธุ์ เว้นแต่จะได้รับ อนุญาต-กอง บ.ก.) สมเด็จพระ นางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้ทรงมีพระราชประสงค์ให้ช่วยกันอนุรักษ์ โลมาอิรวดีซึ่งเป็นสัตว์หายาก พร้อมทั้งทรงรับไว้เป็นสัตว์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ส่วนสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN) ก็จัดให้โลมาอิรวดีอยู่ในบัญชีตัวแดง (Red List) โดยอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤต (Critically Endangered)

และ จากการประชุมไซเตส ครั้งล่าสุดที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 2-14 ตุลาคม 2547 ที่ผ่านมา ผลการประชุมได้อนุมัติให้โลมาอิรวดีเปลี่ยนสถานภาพจากบัญชีที่ 2 ขึ้นสู่บัญชีที่ 1 ตามข้อเสนอของประเทศไทย ทำให้อนาคตของโลมาอิรวดีดูไม่ริบหรี่เกินไปนัก เพราะอย่างน้อยอนุสัญญานี้ก็เป็นเกราะป้องกันโลมาอิรวดีจากการล่าและค้า ระหว่างประเทศ ทั้งยังจะช่วยให้การดำเนินการอนุรักษ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่นี่เป็นเพียงก้าวแรกของการเริ่มอนุรักษ์ทรัพยากรที่มีค่าอย่างโลมาอิรวดี ซึ่งเป็นก้าวที่สำคัญของความหวังที่จะอนุรักษ์โลมาชนิดนี้ไว้


2553/09/10

เค้าคนนี้คือผู้ที่ก่อตั้ง facebook*


Mark Zuckerburg



Mark Zuckerberg ก่อตั้ง Facebook เว็บชุมชนออนไลน์ (Social-Networking Site) ที่กำลังได้รับความนิยมสุดขีดในขณะนี้ เมื่อ 3 ปีก่อน ขณะยังเรียนอยู่ที่ Harvard ก่อนจะลาออกกลางคัน เจริญรอยตาม Bill Gates แห่ง Microsoft เพื่อเป็น CEO ของเว็บชุมชนออนไลน์ที่เขาก่อตั้งขึ้น ด้วยวัยเพียง 22 ปีภาย ในเวลาเพียง 3 ปี เว็บที่เริ่มต้นจากการเป็นเว็บชุมชนออนไลน์สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย กลายเป็นเว็บที่มีผู้ใช้ที่ลงทะเบียน 19 ล้านคน ซึ่งรวมถึงข้าราชการในหน่วยงานรัฐบาล และพนักงานบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ เข้าเว็บนี้เป็นประจำทุกวัน และขณะนี้กลายเป็นเว็บที่มีผู้เข้าชมมากเป็นอันดับ 6 ในสหรัฐ 1% ของเวลาทั้งหมดที่ใช้บน Internet ถูกใช้ในเว็บ Facebookนอกจากนี้ ยังได้รับการจัดอันดับเป็นเว็บที่ผู้ใช้ Upload รูปขึ้นไปเก็บไว้มากเป็นอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ โดยมีจำนวนรูปที่ถูก Upload ขึ้นไปบนเว็บ 6 ล้านรูปต่อวัน และกำลังเริ่มจะเป็นคู่แข่งกับ Google และเว็บยักษ์ใหญ่อื่นๆ ในการดึงดูดวิศวกรรุ่นใหม่ใน Silicon Valley นักวิเคราะห์คาดว่า Facebook

facebook

2553/09/08

แผ่นแปะ แก้สมองเสื่อม*





เมื่อป่วยไข้ด้วยโรคใด ๆ ก็ตามแต่ สิ่งจำเป็นคือการรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดจึงจะหาย

เช่นเดียวกับ 'โรคสมองเสื่อม' ที่ผู้ป่วยต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง แต่เพราะตัวผู้ป่วยเองที่มักมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับยาง่าย ๆ ขณะที่บางรายเป็นคนรับประทานยายากอยู่แล้วเป็นทุน บ้างก็กลัวผลข้างเคียง อย่าง คลื่นไส้ อาเจียน จึงหลบเลี่ยงการรับประทานยาเสียดื้อ ๆ

ด้วยเหตุผลข้างต้น นวัตกรรมทางการแพทย์จึงพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาผู้ป่วยไม่ยอมรับยา ด้วยการทำ
'แผ่นแปะ' รักษาโรคสมองเสื่อมขึ้นมา ซึ่งเดลินิวส์ออนไลน์ได้ข้อมูลดี ๆ มาจากเอกสารแผ่นแปะสำหรับโรคสมองเสื่อม ของบริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด นั่นเอง

สำหรับแผ่นแปะดังกล่าวมีลักษณะเป็นแผ่นซิลิโคน มีตัวยารักษาโรคสมองเสื่อมซึ่งจะซึมผ่านผิวหนังลงไปสู่กระแสเลือด การใช้งานไม่ยาก เพียงตัวผู้ป่วยหรือผู้ดูแลแปะไปที่ผิวหนังบริเวณหลัง หน้าอก หรือแขนส่วนบนก็ใช้ได้ตลอดทั้งวัน แม้ใจตอนอาบน้ำ ถูสบู่ แผ่นแปะก็ไม่หลุดลอกออกไปง่าย ๆ

ที่สำคัญ การใช้แผ่นแปะยังไม่มีผลข้างเคียงเหมือนกับการรับประทานยา เนื่องจากตัวยาจะออกฤทธิ์อย่างคงที่เพราะมีสารควบคุมการปลดปล่อยตัวยา โดยนวัตกรรมดังที่กล่าวมานี้ผ่านการอนุมัติจากองค์กรอาหารและยาแล้ว.

2553/09/07

9 สัตว์อันตรายจริงๆ*

1. Camels

Camels

Camels are known to be pretty temperamental guys. According to a report on Fox News when a local TV news crew was out filming exotic animal farms, an 1800 lb camel named Polo must have decided that they were not shooting his best side. When Polo became agitated he attacked his owner, kicking her and sitting on her. Ouch. Oh, and if you didn't know, camels like to spit too. And it's pretty gross.


2.Deadly Spiders

Spiders

While tarantula (pictured here) bites are usually not deadly to humans (unless you're fatally allergic), their hairs cause intense itching, so they're not meant to be petted or regularly handled. Poisonous spiders include: the Redback Spider, Tree-Dwelling Funnel-Web Spider, Brazilian Wandering Spider, Brown Recluse Spider, and the Black Widow.


3.Baby Turtles

Turtles

Yes, they may look cute. But, they can be carriers of salmonella. A reported quarter million cases of samonellosis occurred annually during the 1970s -- when there was a baby turtle pet craze. Children were the most affected by such outbreaks.


4.Alligators, Crocodiles, and/or Caimans

Alligators

Have you seen their teeth? They're carnivores that can exceed six feet in size.


5.Tiger (or any other big cat)

Tiger

Although big cats can appear to not be overtly aggressive, they are natural-born predators, so it's hard to completely train that behavior out of them. From the man in harlem, New York who thought he could own a pet tiger to even trained professions like Roy Horn of Siegfried and Roy, Big Cats have been known to attack -- so they're just not meant to be pets.


6.Venomous Snakes

Venomous Snakes

Even snake handlers get bit, so why should you risk owning one of these? The black mamba (pictured here), is the most venomous snake in the world and is responsible for a large number of human deaths a year. Before an anti-venom was established, their bites were capable of killing a human in 20 minutes. Skip the ego-boost of owning "the world's deadliest snake," since it could actually kill you.


7.Constrictor Snakes

Constrictor Snakes

From Burmese pythons (pictured here) to boa constrictors, constrictor snakes can grow to be quite large and can kill adults easily by constricting them. They're also powerful biters. Finally, constrictors are excellent at escaping, so be wary of calling these snakes pets.


8.Kinkajou

Kinkajou

Looking like a cross between a monkey and a ferret, when provoked, this "honey bear" can aggressively scratch and bite. They're also a bit clinging. Baby Luv, Paris Hilton's kinkajou, bit and scratched her to the point where she had to go to the emergency room -- twice, in 2005 and then in 2006.


9.Ostriches

Ostriches

Although this girl seems to be doing just fine riding this ostrich, ostriches are known to be rather aggressive and their powerful kicks have been deadly. They're also fast runners, which doesn't help if you're getting chased.

2553/09/05

คุณค่าหลังธนบัตร*

แต่ละวัน...คุณใช้"ธนบัตร"ราคาไหนบ้าง ?


แน่นอน คุณรู้ว่า "ธนบัตร" มีค่า แต่คุณรู้ไหมครับว่านอกจาก "ค่า" คือราคาของตัวเองแล้ว "ธนบัตร" ยังมี "คุณค่า" เพราะ"หลังธนบัตร" มีสิ่งดีๆที่สอนเราอยู่

แต่เราไม่เคย "อ่าน" นอกเหนือจากไม่ค่อยสังเกตุว่า "หลังธนบัตร" แต่ละราคาเป็นภาพของกษัตริย์องค์ไหน

เลยขอนำ"คุณค่า"หลังธนบัตรมาบอก..

ธนบัตร ๒o บาท ...คุณรู้ไหมว่าเป็นภาพของพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ไหน

คำตอบก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดล และ "คุณค่า" หลังธนบัตรนี่ มีข้อความว่า

"ถ้าคนไทยทุกคน ถือว่าตนเองเป็นเจ้าของชาติบ้านเมือง และต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดี ด้วยความสุจริตและถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรมแล้ว ความทุกข์ยากของบ้านเมือง ก็จะผ่านพ้นไปได้"


มาถึงแบงก์ร้อย
ส่วนใหญ่คงจำกันแม่นว่า "หลังธนบัตร" สีแดงใบละร้อย เป็นภาพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยะมหาราช แต่คุณเคยรู้ "คุณค่า" หลังธนบัตรนี้ไหม คำตอบ...

"ประเพณีทาสที่มีอยู่ในพระราชอาณาจักรสยาม ถึงเป็นวิธีทาสทำสารกรมธรรม์
ขายตัวด้วยใจสมัคร มิใช่ทาสเชลย ที่เป็นการกดขี่อย่างร้ายแรงก็จริง
แต่เป็นเครื่องกีดขวางทางเจริญ ประโยชน์และสุขสำราญ ของมหาชนอยู่อย่างหนึ่ง
ซึ่งจำเป็นจะต้องเลิกถอน อย่าให้มีประเพณีทาสในพระราชอาณาจักรนี้
กรุงสยามจึงจะมีความสมบูรณ์เท่าทันประเทศอื่น
"

แบงก์ ๕oo ล่ะ ใช้ธนบัตรสีม่วง รู้ไหมเป็นภาพพระองค์ไหน

แน่นอนว่าหลายคนคงนึกไม่ออก ..เพราะเป็น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชดำรัสไว้ในเราทราบคือ..

"การงานสิ่งใดของเขาที่ดี ควรจะเรียนร่ำเอาไว้ ก็เอาอย่างเขา
แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปเสียทีเดียว"


แบงก์ใหญ่ที่สุด ธนบัตรใบละ ๑ooo บาท

หลายคนทราบดีว่าเป็นภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่เคย "อ่าน" สิ่งที่มี "คุณค่า" หลังธนบัตรไหม

เศรษฐกิจแบบพอเพียง … เศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั้น หมายความว่าอุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง

นี่คือ"คุณค่า"หลังธนบัตรที่เราไม่ค่อยสังเกตกัน ^^

2553/09/04

สวย ! แต่อันตรายของจิง*

"สวยแต่รูป จูบไม่หอม" ดูท่าทางจะเป็นคำที่เหมาะสมสำหรับ "สัตว์ 5 ชนิด" นี้จริงๆ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกของมันสวยงามดึงดูดความสนใจต่อผู้ที่ได้พบเห็น แต่ภายในความสวยกลับซ่อนพิษร้ายที่สามารถทำให้คนเสียชีวิตได้แค่เพียงเฉียดใกล้เข้าไปใกล้นนิดเดียว

เด็กดีดอทคอม :: 5 สัตว์ที่สวย แต่อันตรายถึงชีวิต

- แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish) : เห็นสีสันของแมงกะพรุนชนิดนี้แล้ว ต้องขอบอกสวยมากเลย แต่พิษของมันก็ร้ายแรงเช่นเดียวกัน เพราะแมงกะพรุนชนิดนี้มีเขี้ยวพิษอยู่ในเซลล์จำนวนกว่าล้านเซลล์ ซึ่งผู้ที่ถูกพิศจะมีอาการช็อค และหัวใจวาย วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือ ใช้น้ำส้มสายชูราดลงไปที่บริเวณที่ถูกพิษ วิธีนี้จะช่วยเบาเทาพิษได้ หลังจากนั้นรีบหาส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

- งูจงอาง (King Cobra) : งูชนิดนี้ถือว่าเป็นงูที่มีขนาดลำตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันกินงูอื่น หนู กบ และตะกวดเป็นอาหาร พิษของมันสามารถฆ่าคนตายได้ในระยะเวลาสั้นๆ รวมทั้งช้างตัวเต็มวัยที่สามารถตายได้ภายใน 3 ชั่วโมง น่ากลัวมากเลยใช่ไหมจ๊ะ ผู้ที่โดนงูจงอางกัดจะมีอาการหนังตาตก พูดและกลืนน้ำลายลำบาก แขนขาอ่อ่นแรง หายใจติดขัด และหยุดหายใจในเวลาต่อมา วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใช้เชือกรัดเหนือบาดแผลประมาณ 5- 15 ซม. อย่ารัดแน่นจนเกินไปพอให้นิ้วมือสอดเข้าไปได้ สาเหตุที่ต้องรัดเชือกนั้นเป็นเพราะเพื่อป้องกันไม่ให้พิษของงูดูดซึมเข้าไปในท่อน้ำเหลือง และเส้นเลือดดำที่จะเข้าไปหล่อเลี้ยงหัวใจ นอกจกานี้ยังต้องให้ผู้แวยนอนอยู่นิ่งๆ และจัดท่าบาดแผลให้อยู่ต่ำกว่าระดับหัวใจ ทำความสะอาดบาดแผลด้วยน้ำสะอาด หรือแอลกอฮอล์ และทิงเจอร์ หลังจากนั้นรีบนำส่งโรงพยาบาล

- หอยเต้าปูนลายหินอ่อน (Marbled Cone Snail) : ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่า หอยมรณะ เป็นหอยอีกชนิดหนึ่งที่มีสีสันสวยงาม แต่ก็อันตรายสุดๆ เพราะพิษแค่หยดเดียวของมันสามารถฆ่าคนได้มากถึง 20 คน โดยผู้ที่ถูกพิษจะมีอาการ คือ รอบแผลจะซีด บวม เขียวซ้ำ รู้สึกชารอบๆ บาดแผล หลังจากนั้นจะมีอาการบวมแดง ตาพร่ามัว คลื่นไส้ อาเจียน พูดและหายใจติดขัด เจ็บหน้าอก ทำให้หัวใจ และเสียชีวิตได้ วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นทำเช่นเดียวกับโดนงูกัด

เด็กดีดอทคอม :: 5 สัตว์ที่สวย แต่อันตรายถึงชีวิต

- ปลาหมึกแหวนน้ำเงิน (Blue Ringed Octopus) : ปลาหมึกชนิดนี้นอกจากจะมีสีสันที่สวยงามแล้ว มันยังมีขนาดเล็กเท่าเพียงลูกกอล์ฟเท่านั้น ผู้ที่ถูกพิษจะไม่ค่อยรู้สึกเจ็บปวดเท่าไหร่ แต่พิษของมันร้ายแรงมากเพราะจะเข้าไปทำลายระบบประสาท ทำให้รู้สึกอ่อนแอ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ระบบหายใจจะล้มหลว และเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มียาแก้พิษชนิดนี้เลย

- แมงป่องเดทธ์สตอล์คเกอร์ (Death Stalker Scorpion) : ผู้ที่โดนต่อยจะมีอาการปวด ไข้ขึ้น เพราะพิษของมันจะเข้าไปทำลายระบบประสาท ในกรณีที่ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กและคนชราจะทำให้เสียชีวิตได้ เพราะมีภูมิต้านทานต่ำ ส่วนในกรณีที่เป็นผู้ใหญ่ก็จะทำให้เป็นอัมพาตได้

เด็กดีดอทคอม :: 5 สัตว์ที่สวย แต่อันตรายถึงชีวิต